แชร์

"กุ้งยิง" บนเปลือกตา: อาการ และการรักษาให้หายเร็ว

อัพเดทล่าสุด: 12 มี.ค. 2025
7 ผู้เข้าชม

บทนำ

 
          กุ้งยิงเป็นปัญหาที่หลายคนคงเคยประสบพบเจอ บางครั้งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตา (และไม่สบายใจ) โดยเฉพาะเมื่อกุ้งยิงเกิดขึ้นในช่วงที่ไม่คาดคิด แต่กุ้งยิงนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเสมอไป หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการดูแลและรักษากุ้งยิง รวมถึงคำแนะนำว่าเมื่อไรควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
 
 
 
 

กุ้งยิงเกิดจากอะไร?

 
         กุ้งยิงเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันในเปลือกตา ซึ่งทำให้เกิดอาการบวม แดง หรือเป็นก้อนที่บริเวณเปลือกตา โดยปกติแล้ว ภายในเปลือกตาของเรามีต่อมไขมันจำนวนมากทั้งในเปลือกตาบนและล่าง ต่อมไขมันเหล่านี้ทำหน้าที่สร้างไขมันเพื่อเคลือบผิวตา ซึ่งชั้นไขมันนี้ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำตาระเหยออกไปง่ายๆ

     เมื่อเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเข้าไปในต่อมไขมัน ก็จะทำให้เกิดการอักเสบและบวมจนกลายเป็นก้อนที่มีหนองอยู่ภายใน หรือที่เรียกว่า "กุ้งยิง" ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตาและอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
 
 
 

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกุ้งยิง

 
  • การสัมผัสเชื้อโรค การสัมผัสกับเชื้อโรคผ่านมือหรือสิ่งของต่างๆ เช่น ผ้าปูที่นอน มือที่ไม่สะอาด หรือการขยี้ตาโดยไม่ล้างมือ
  • การใช้เครื่องสำอาง การใช้เครื่องสำอางอย่างอายไลน์เนอร์ หรือมาสคาร่าอาจทำให้ต่อมไขมันอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ความไม่สะอาดของตา การไม่รักษาความสะอาดของดวงตา เช่น การไม่ล้างหน้าหรือไม่ทำความสะอาดเครื่องสำอางหลังจากการใช้งาน
  • อาการตาแห้ง คนที่มีอาการตาแห้งอาจเสี่ยงต่อการเกิดกุ้งยิงมากขึ้น
 
 
 

กุ้งยิงรักษาอย่างไร?

 
1. การประคบอุ่น
 
         การประคบอุ่นเป็นวิธีการที่แพทย์มักแนะนำในการรักษากุ้งยิง เนื่องจากการประคบอุ่นช่วยให้ไขมันในต่อมไขมันมีความหนืดลดลงและสามารถระบายออกมาได้ง่ายขึ้น การประคบอุ่นจะช่วยให้เชื้อโรคที่สะสมอยู่ในกุ้งยิงออกมา ช่วยลดการอักเสบและเร่งให้หายเร็วขึ้น
         
         
           วิธีการประคบอุ่น
  • ใช้ผ้าห่อข้าวสวยหรือไข่ต้มที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ (ประมาณ 40 องศา)
  • ประคบบริเวณที่มีอาการกุ้งยิงประมาณ 10-15 นาที วันละหลายครั้ง
  • ควรหลีกเลี่ยงการประคบที่มีอุณหภูมิร้อนจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังไหม้ได้
 

2. รักษาความสะอาดของเปลือกตา

 
          ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตาหรือขยี้ตาโดยไม่จำเป็น ควรล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณที่มีการอักเสบ
 

3. การใช้ยาฆ่าเชื้อ 


     หากกุ้งยิงมีอาการบวมและอักเสบมาก อาจพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดรับประทาน และอาจใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตาที่มีลักษณะเป็นขี้ผึ้งป้ายตา หากมีอาการเยื่อบุตาอักเสบร่วมด้วย การใช้ยาปฏิชีวนะควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์หรือเภสัชกรครับ
 
 
 
 

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

 
          โดยส่วนใหญ่ กุ้งยิงมักจะดีขึ้นและหายไปได้เองภายในเวลาหลักวันหรือสัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือกุ้งยิงมีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นฝีที่มีหนองอยู่ภายใน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจทำการเจาะกุ้งยิงเพื่อระบายหนองที่สะสมอยู่ภายในออกมา และพิจารณาให้การรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะต่อไปครับ
 
 
 
 
 
 
 
สามารถแบ่งปันบทความให้หลายๆ คนได้อ่านโดยกดปุ่ม share ด้านบนนะครับ :)
 
 
 
 

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy