มองเห็นจุดดำลอยไปมา อันตรายหรือเรื่องธรรมดา?
อัพเดทล่าสุด: 9 มี.ค. 2025
8 ผู้เข้าชม
บทนำ
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์มองเห็นจุดหรือเส้นสีดำๆ คล้ายหยากไย่ลอยไปลอยมา โดยเฉพาะเวลามองไปบนพื้นที่สว่าง เช่น ขณะมองฟ้าหรือมองไปที่ผนังสีขาว ซึ่งมักทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าภาวะนี้จะเป็นอันตรายต่อดวงตาหรือ จะทำให้เกิดตาบอดในอนาคตหรือไม่
การมองเห็นจุดหรือเส้นสีดำๆ ในตานี้มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า โฟลท์เตอร์ (floaters) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของวุ้นตา (vitreous) ภาวะวุ้นตาเสื่อมนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนตามอายุที่มากขึ้น
การมองเห็นจุดหรือเส้นสีดำๆ ในตานี้มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า โฟลท์เตอร์ (floaters) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของวุ้นตา (vitreous) ภาวะวุ้นตาเสื่อมนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนตามอายุที่มากขึ้น
วุ้นตาเสื่อม คืออะไร
วุ้นตาคือของเหลวที่อยู่ภายในตา มีลักษณะเป็นเจลใสๆ ประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งทำหน้าที่ช่วยรักษารูปทรงของดวงตา เมื่อเราอายุมากขึ้น วุ้นตาจะเริ่มเสื่อมสภาพ โดยการเสื่อมสภาพนี้จะทำให้วุ้นตาไม่คงตัวอีกต่อไป และเริ่มมีการรวมตัวกันเป็นตะกอน ซึ่งตะกอนเหล่านี้สามารถลอยไปมาในช่องว่างของตา ทำให้เกิดการมองเห็นจุดหรือเส้นสีดำลอยไปมานั่นเอง
ภาวะวุ้นตาเสื่อมถือเป็นความเสื่อมในร่างกายชนิดหนึ่ง ดังนั้นทุกคนสามารถเจอได้เมื่ออายุมากขึ้น การเสื่อมของวุ้นตานั้นเปรียบได้กับการเสื่อมของคอลลาเจนในผิวหนังที่ทำให้เกิดผิวหนังหย่อนคล้อย และริ้วรอยเมื่อเราอายุมากขึ้น
ภาวะวุ้นตาเสื่อมถือเป็นความเสื่อมในร่างกายชนิดหนึ่ง ดังนั้นทุกคนสามารถเจอได้เมื่ออายุมากขึ้น การเสื่อมของวุ้นตานั้นเปรียบได้กับการเสื่อมของคอลลาเจนในผิวหนังที่ทำให้เกิดผิวหนังหย่อนคล้อย และริ้วรอยเมื่อเราอายุมากขึ้น
วุ้นตาเสื่อม อันตรายหรือไม่
การมองเห็นจุดดำลอยไปมาจากภาวะวุ้นตาเสื่อมมักจะก่อให้เกิดความรำคาญ โดยทั่วไปจะไม่ทำให้สูญเสียการมองเห็นหรือตาบอด บ่อยครั้งผู้ป่วยสามารถปรับตัว ค่อยๆ ชินกับมันมากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะไม่มีอันตราย ในบางกรณี การมองเห็นจุดดำลอยอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการรักษาทันที โดยเฉพาะหากคุณเริ่มมองเห็นจุดดำมากขึ้นอย่างกระทันหัน หรือหากมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น การมองเห็นแสงกระพริบคล้ายฟ้าแลบ หรือมีม่านดำมาบังบางส่วนของลานสายตา
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะไม่มีอันตราย ในบางกรณี การมองเห็นจุดดำลอยอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการรักษาทันที โดยเฉพาะหากคุณเริ่มมองเห็นจุดดำมากขึ้นอย่างกระทันหัน หรือหากมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น การมองเห็นแสงกระพริบคล้ายฟ้าแลบ หรือมีม่านดำมาบังบางส่วนของลานสายตา
อาการเหล่านี้อาจเป็นอาการของโรคจอประสาทตาฉีกขาดหรือจอประสาทตาหลุดลอก ซึ่งเป็นภาวะที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรถ้าไม่ได้รับการรักษาทันที
วุ้นตาเสื่อม ควรทำอย่างไร
ผู้ที่มองเห็นจุดดำลอยควรได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก โดยเฉพาะในผู้ที่เห็นจุดดำลอยมากขึ้นเร็วๆ หรือห็นแสงไฟกระพริบคล้ายฟ้าแลบ ก็ยิ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ครับ
ในผู้ที่มีวุ้นตาเสื่อม ที่ตรวจแล้วไม่มีจอประสาทฉีกขาดหรือหลุดลอก โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องทำการรักษา หลายคนอาจรู้สึกชินกับมันมากขึ้น หรือจุดดำอาจค่อยๆ ลอยออกไปห่างจากจุดกึ่งกลางสายตา ทำให้รบกวนการมองเห็นน้อยลง แนะนำให้สังเกตอาการ และพิจารณาตรวจติดตามกับจักษุแพทย์เป็นระยะ
ถ้าหากพบว่ามีจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก จำเป็นจะต้องไดัรับการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ที่จอประสาทตา หรือการผ่าตัดจอประสาทตา
ในการตรวจจอประสาทตา คุณหมอจะทำการหยอดยาขยายม่านตาเพื่อตรวจประเมินจอประสาทตาอย่างละเอียด ซึ่งการหยอดยาขยายม่านตาจะทำให้ตามัวลงกว่าปกติ สู้แสงลำบาก ไปอีกประมาณ 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นอย่าลืมพาญาติไปด้วยกัน จะได้มีคนช่วยเหลือพากลับบ้านนะครับ
กล่าวโดยสรุปคือ การมองเห็นจุดดำลอยในตา หรือที่เรียกว่า floater เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามวัย โดยส่วนใหญ่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายและไม่ทำให้ตาบอด อย่างไรก็ตาม หากมีอาการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น การเห็นแสงกระพริบหรือม่านดำบังการมองเห็น ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงทีครับ
ในผู้ที่มีวุ้นตาเสื่อม ที่ตรวจแล้วไม่มีจอประสาทฉีกขาดหรือหลุดลอก โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องทำการรักษา หลายคนอาจรู้สึกชินกับมันมากขึ้น หรือจุดดำอาจค่อยๆ ลอยออกไปห่างจากจุดกึ่งกลางสายตา ทำให้รบกวนการมองเห็นน้อยลง แนะนำให้สังเกตอาการ และพิจารณาตรวจติดตามกับจักษุแพทย์เป็นระยะ
ถ้าหากพบว่ามีจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก จำเป็นจะต้องไดัรับการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ที่จอประสาทตา หรือการผ่าตัดจอประสาทตา
ในการตรวจจอประสาทตา คุณหมอจะทำการหยอดยาขยายม่านตาเพื่อตรวจประเมินจอประสาทตาอย่างละเอียด ซึ่งการหยอดยาขยายม่านตาจะทำให้ตามัวลงกว่าปกติ สู้แสงลำบาก ไปอีกประมาณ 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นอย่าลืมพาญาติไปด้วยกัน จะได้มีคนช่วยเหลือพากลับบ้านนะครับ
กล่าวโดยสรุปคือ การมองเห็นจุดดำลอยในตา หรือที่เรียกว่า floater เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามวัย โดยส่วนใหญ่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายและไม่ทำให้ตาบอด อย่างไรก็ตาม หากมีอาการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น การเห็นแสงกระพริบหรือม่านดำบังการมองเห็น ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาอย่างทันท่วงทีครับ
ถ้าบทความม่ประโยชน์ สามารถแชร์บทความทาง social media ต่างๆ กันได้นะครับ